เปิดตัวแล้วค่ะ”โต๊ะเขียนของ’ยุรี” ซึ่งจัดไว้เป็นมุมสบายๆคลายเครียด ตามสไตล์การเขียนของน้องมยุรี ที่รักงานขีดๆเขียนๆและในลีลาหลากหลายอารมณ์ ตามประสานักเขียนดาวรุ่งไฟแรง….และมาแรงแซงทางโค้งกันเลยเชียวล่ะค่ะ
ขอเชิญทุกท่านมาแวะอ่านกันงานเขียนของน้องยุรีได้ทุกเวลา ยินดีต้อนรับคอมเม้นท์และข้อคิดเห็นต่างๆที่อยากให้น้องมยุรีเขียน (แต่สิ่งที่ไม่รับและไม่กล้ารับเลยก็คือตั๋วจำนำที่กำลังจะหมดอายุและใบทวงหนี้นะคะ โปรดกรุณาอย่าส่งมาเลย สาธุ!)
Blogนี้ยินดีต้อนรับ”น้องมยุรี ชูสมภพ”ด้วยความดีใจและเต็มใจยิ่งที่จะมาช่วยสร้างสรรค์บรรยากาศของBlogให้มีชีวิตชีวามากขึ้นค่ะ
“น้อง’ยุรี”
ระหว่างแม็คกะติน ติน งานนี้ไม่เข้าข้างเจ้าลูกตัวดีหรอก…เมื่อวานยังคุยกะพี่เยาว์ เรื่องที่เจ้าสองตัว มันเถียงกัน ฟ้องกันใหญ่ คิดถึงทีไร อดขำไม่ได้สักที จริง ๆ แล้วที่แม็คกกล้าเถียง เพราะอยู่ในรั้วฝั่งบ้านพี่เยาว์ ส่วนติน ติน อยู่ด้านนอก ไม่งั้นแม็คไม่กล้าแม้จะเอื้อนเอ่ยแน่นอน…ปกติเวลาเลิฟกัน นอนแทบจะเกยกันเลยล่ะ…ตอนนี้ ยังไม่เป็นปกติ เตี่ยรีบอกว่า นี่ นังชีต้าร์ หัดสอนลูกและผัว หน่อยสิ…ว่าอย่าทะเลาะกัน 555 ในบ้านรี ชีต้าร์ใหญ่สุด ไม่มีใครกล้าหือ…ระยะนี้ คุณแม็ค เธอก็จิตใจไม่สู่ภาวะปกติ ชอบเข้าบ้านนู้นบ้านนี้ แถมแวะเข้ามาบ้านรีอีก เปิดประตูทิ้งไว้ มาสะบัดขนไว้ให้ดูเป็นหลักฐานอีกตะหาก ปกติบ้านรี มีกาแฟเท่านั้นที่กล้าเปิดประตูเข้ามา ตัวอื่นไม่กล้าแม้แต่จะคิด…คงรอให้แผลที่หูหายก่อน คงจะกลับมาเหมือนเดิม…
1/22/2012
สวัสดีค่ะพี่อ้อย…
ขอให้เฮง เฮง รวย รวย ได้สมหวังตามที่พี่ปรารถนานะคะ…รีอวยพรให้พี่ได้ทำตามความฝันของพี่ค่ะ…ช่วงนี้รีไม่ได้ค่อยมีเวลาเข้าไปอ่านในบล็อคเลย แถมไม่ค่อยมีเรื่องฮา ๆ เกี่ยวกะน้องหมาอีกตะหาก…มีแต่เรื่องเครียด ๆ งัยก็ไม่รู้ค่ะ…เมื่อกี้แว่บเข้าไปอ่านเรื่องยัยหญิง แย่งที่ส้มตำ…นี่ถ้ารีอยู่ในเหตุการณ์ รีไม่เข้าข้างพี่นะ…555 เพราะยัยหญิงขี้โกงเกินไป และส้มตำก็ช่างใจดีเสียนี่กระไร แบบว่า ส้มตำไม่ว่า แล้วพวกป้า ยุ่งไรด้วยเนี่ย. วันก่อน แม็คกะติน ติน ก่อศึกแย่งขนมกัน…กัดกันซะแม็คหูเลือดอาบ…แม็คเป็นพ่อที่ไม่มีแรงจะสู้ ส่วน ติน ติน เป็นลูกทรพี (เตี่ยรีตั้งให้) พอรีห้ามทัพได้…ตลกมากเลยพี่ รียืนอยู่ตรงกลางระหว่างแม็คกะติน ก็ดุติน ติน …พี่รู้มั้ย สองตัวพ่อลูก แข่งกันฟ้อง ตลกมากเลย เหมือนเค้าต่างพูด ฟ้องกันใหญ่ โดยทำแบบเสียงหอนอ่ะพี่ พี่เยาว์อยู่ด้วยก็ขำกลิ้ง เพราะรีบอกว่า ต่างคนต่างหอน ฟ้องกันอย่างนี้ ฟังไม่รู้เรื่อง…ตอนนี้สถานการณ์เลยยังไม่สู่ภาวะปกติ เหล่…กันทั้งวัน กลัวจะเปิดศึก แต่ความจริงแล้ว แม็คกลัวติน ตินอยู่แล้วล่ะ…แม็คก็จ้องจะเข้าบ้านนู้นบ้านนี้ท่าเดียวเลย ต้องปิดกลอนอย่างดี…
วันนี้เหนื่อยมากกว่าปกติค่ะ เนื่องจากหลังจากเสร็จภาระกิจไหว้ ก็ต้องทำครัว โหย…ไก่งี้กระเด็นกระดอน…เหนียวทั้งพื้นครัว รีไม่ได้ทำหรอกค่ะ พี่เยาว์กะแม่ เป็นคนทำ แต่รีเป็นคนเก็บล้าง เหนื่อยมั่ก..มาก ขอบอก
ตอบนะ ขอบคุณมากๆสำหรับรับคำอวยพรจ้ะรี และรีก็เช่นกันนะขอให้มีแต่ความสุขความเจริญทั้งครอบครัวเลย
อ้อ…ทีมสนับสนุนเจ้าส้มตำนั่งยิ้มกันหน้าบานเป็นกระด้งเลย ที่มีเสียงโหวตจากไทยมาเพิ่ม….
ข่าวล่าสุดจากน้องยุรี….
รี
เรื่องของน้องท๊อฟฟี่
ยังไม่ได้เล่าว่า มีน้องหมาอีกตัวชื่อท๊อฟฟี่…เป็นสมาชิกในบ้านของรีเมื่อไม่กี่ปีนี้เอง เป็นน้องหมาของพี่แอ๊ด เพื่อนน้องแอนลูกสาวเค้าให้มา ปกติก็อยู่ตลาดที่ร้านศรีอนันต์ นาน ๆ มาเที่ยวที่บ้านทีนึง สมัยก่อนเวลามาบ้าน ชอบข่มขุ่ ตัวนู้น ตัวนี้ ไม่ว่าจะเป็นกาแฟ ชีต้าร์ โกโก้…พอหลายปีผ่านไป ทีอฟฟี่อยู่ตลาดก็เห่าลูกค้าบ้าง อึ ฉี่ ไม่เลือกบ้าง ก็เลยโดนเนรเทศมาอยุ่ที่บ้านรี…ตอนแรกก็อยู่ดีหรอก พอช่วงหลัง ไม่ถูกกะโกโก้ กะชีต้าร์อย่างแรง กัดกันเละเลยพี่…เตี่ยก็เลยต้องกั้นบริเวณให้ท๊อฟฟี่ สันโดษมาตัวเดียว ตอนนี้ขืนปล่อยให้ชีต้าร์กัด มีหวังตายสถานเดียว รีก็เลยไม่ค่อยปลื้มท๊อฟฟี่เท่าไหร่ เรียกว่า ไม่รัก เลยก็ว่าได้ ดังนั้นที่ถามว่า ลำเอียงไหม….โหย สุดขั้วเลย อย่างตอนนี้ก็จะรักกาแฟมากที่สุด ได้กินของพิเศษที่สุด อะไรประมาณเนี้ยะค่ะ พอนานเข้า รีก็เริ่มสงสารท๊อฟฟี่ ตอนแรกเค้าก็ไม่รักรีนะคะ ลูบหัวเนี่ยะ หลบ ไม่ยอมให้จับ เรียกก็ไม่มา มองด้วยหางตาอีกตะหาก ใช้เวลานานเลยค่ะ…เวลาเค้าได้ยินเสียงเด็กที่ร้านศรีอนันต์มาที่บ้าน หรือพี่แอ๊ดมาบ้าน เค้าจะร้องดีใจ แบบโหยหวนสุดขีด จนวันหนึ่ง รีคิดจะเอาชนะท๊อฟฟี่ ด้วยความรักและสงสาร…เดี๋ยวนี้ เวลารีออกไปไหน กลับมาเท่านั้นล่ะ โหยหวนแล้วพี่ แสดงว่า เค้ารักรีแล้ว กว่าจะรักกันได้ นานเหมือนกันค่ะ…เพราะรีไม่ค่อยชอบนิสัยพาลของท๊อฟฟี่ เค้าเป็นผู้หญิงนะ แต่ดูเหมือนเป็นทอม ๆ งัยไม่รู้อ่ะ เวลาไปตัดผมกลับมา ผูกโบมาสองข้าง เหมือนกะเทยเปี๊ยบเลย 555 บางทีตอนนี้ ก็มีกัดกะชีต้าร์เหมือนกัน นอกกรง ก็เห่า ขู่กันตลอด…
มีรูปที่ใส่กลอน ถ้าสังเกตุดี ๆ จะเป็นแปรงขนน้องหมา ที่รีทิ้งแล้ว เตี่ยเค้าไปตัด ทำเป็นช่องใส่กลอน…รูปที่ 4 ตัว รอเวลาที่รีตื่นมาตอนเช้า นั่งรอกันน่าสงสาร จริง ๆมีกาแฟรอด้วย ส่วนท๊อฟฟี่ ก็จะอยู่ในที่กักกัน…เด๋วนี้เค้ารู้นะพี่ ถ้าเค้าร้องเสียงดังดีใจ ชีต้าร์จะวิ่งไปขู่ ทันที รีก็บอกว่า ท๊อฟฟี่ อย่าสงเสียงลูก เดี๋ยวนังยักษ์กัดเอา…เดี๋ยวนี้ท๊อฟฟี่ เงียบ แอบมองรี รีทักทาย 5 ตัวเสร็จ ก็จะเข้าไปทักทายในที่กักกันเค้าแป๊บนึง ไม่อยากให้เค้าเสียน้ำใจ ส่วนกล้วยไม้ ตอนนี้ออกดอกเยอะเลย อยู่ในส่วนของห้องน้ำข้างบนบ้านอ่ะค่ะ อ้อ..มีน้องจูดี้ พันธุ์ปอม…วันก่อนไปเจอมา เป็นลูกรักของลูกสาวเจ้านายเก่า…ไว้มีเวลาค่อยเล่าเรื่องท๊อฟฟี่นะคะ…ตอนนี้ตัวดำเป็นกะปิ เค้าเป็นเทอร์เรีย ผสม พูดเดิ้ลอ่ะค่ะ…มองไปมองมา เค้าก็น่ารักเหมือนกัน ที่รีไม่ค่อยชอบเค้าก็เพราะชอบมารังแกลูกรักกาแฟของรีงัยล่ะ ฟังพี่เล่าเรื่องเจ้าหญิงงอนแล้ว ขำจัง…อารมณ์ของเค้าเนี่ยะ…สังเกตได้ไม่ยาก กาแฟก็เหมือนกัน โดนรีตี เค้าก็งอน เรียกไม่สนใจ…แต่สิ่งที่พวกนี้มีให้เราก็คือ ความรัก ความซื่อสัตย์
วันนี้ส่งรูปท๊อฟฟี่มาให้พี่ดู…เค้าก็น่ารักดีนะคะ แถมตอนนี้น่าสงสารอีกต่างหาก…เมื่อวานจับอาบน้ำตัวขาวจั้วเลย..ตอนนี้รีก็ต้องเอาใจท๊อฟฟี่เพิ่มขึ้นอีกตัว ตอนแรกที่แม่บ้านสวยอยู่ สวยจะเป็นคนอาบน้ำให้ท๊อฟฟี่ ให้ข้าวกิน แต่ตอนนี้ทุกอย่างเป็นหน้าที่ของรี ก็เลยสนิทกับท๊อฟฟี่มากขึ้นปกติไม่ค่อยชอบให้ลูบหัว จับนอนหงายท้องนี่ไม่ยอมเลย แต่เมื่อเช้าเล่นกับเค้า เค้ายอมให้รีจับเค้าหงายท้องรีก็ลูบ ๆๆๆๆๆ สบาย หลับตาพริ้มเชียว กาแฟกะโกโก้ก็ยืนมองด้วยความอิจฉา…555
พูดถึงท๊อฟฟี่ เค้าก็ญาติดีกะทุกตัว ยกเว้นชีต้าร์ กะโกโก้ยังไม่ค่อยไว้ใจเท่าไหร่ เพราะตอนทะเลาะกันเนี่ยะ กัดกันรุนแรงมาก ๆ ไม่อยากจะเชื่อว่า น้องหมาตัวเล็ก ๆ แบบนี้ เวลากัดกันทีนะพี่ ไม่อยากจะนึก มีอยุ่ครั้งนึง พี่ปุ๋ยอยู่ในเหตุการณ์ด้วย กัดกันใหญเลย พี่ปุ๋ยก็อุ้มโกโก้ขึ้น ท๊อฟฟี่ กัดส่วนบั้นท้ายแบบยกติดกันขึ้นมาเลย ไม่ยอมปล่อยเลยอ่ะค่ะพี่ เตี่ยรีก็เลยทำประตูกั้น ถ้าพี่มาเห็นบ้านรีนะจะเห็นประตูเล็ก ๆ 4 ที่ กั้นทุกล็อค…เพราะบางครั้งพวกเนี้ยะเค้าอยู่กันแบบเบิร์ด ๆ ไม่เคยอยู่กรงเลย เวลามีงานทีนึง ต้องหาที่กักกัน..ไม่งั้นเห่ากันทั้งวัน แถมประตูรั้วบ้านต้องเปิดไว้ ขืนไม่กักกัน มีหวัง ออกไปเริงร่านอกบ้านแน่ ๆ แต่เค้าก็ดีนะคะ เวลาเปิดประตูเข้าออก พวกเค้าจะไม่เคยวิ่งออกนอกบ้านเลย แต่เราต้องคอยระวังว่า นอกรั้วมีมะหมาจอมกวนอย่างเจ้าโก๋รึเปล่า มีไม้หน้าประตูคอยถือขู่ ๆ ไปงั้นล่ะ แต่ทุกคนที่ขับรถเข้าบ้านรี ต้องให้สัญญาณ ว่า ขับช้า ๆ เพราะน้องหมาแต่ล่ะตัว เดินดักหน้าดักหลัง ดีอกดีใจ เวลาเราลงจากรถนะ ไปรับถึงหน้าประตู พอเปิดประตูปั๊บ ติน ติน ก็พุ่งเข้ามาหารีเลย เตี่ยต้องคอยเอ็ด ยิ่งไปไหนแบบค้างคืนแล้วล่ะ ก้อ..ไม่รู้คิดถึงอะไรหนักหนา กระโดดล้อมหน้าล้อมหลัง เตี่ยเค้ากลัวจะล้ม เพราะเค้าจะโถมเข้าใส่ แบบว่า จะจุ๊บแก้มอะไรอย่างนั้นอ่ะค่ะ..ส่วนท๊อฟฟี่ก็ไม่ได้กลับไปตลาดอีกเลยค่ะ ตอนนี้รีว่า เค้าดูมีความสุขขึ้นมาก หลังจากที่รีให้ความรักเค้า..แต่ก่อนไม่รักเพราะว่า เค้าเหมือนเด็กเก็บกด กัดกาแฟ กัดโกโก้ แล้วตาเค้าโต ๆ นะ เวลาเค้ามองจะใช้สายตาแบบ หือ..ชั้นก็ไม่ชอบหน้ารีเหมือนกัน…555 เวลากินอะไร เราหยิบไม่ได้เลยนะ ขู่ แห่ แห่…ตลอด ปกติรีเลี้ยงทุกตัว เวลาเค้ากินอะไรอยู่ในปาก รีจะทดสอบ ใช้มือหยิบที่เค้ากิน ทุกตัวไม่เคย แห่ แห่…เรียกว่า เราแย่งเค้า เค้าก็ไม่ว่า…น่ารักที่สุด..วกกลับมาเรื่องเมนูอีกสักนิด คือจำนวนน้องหมาของพี่อ้อยอ่ะ ก็ซื้ออาหารพอไหว แต่ของรีมันตั้ง 6 ตัว ขืนซื้ออาหารกระป๋อง รีคงต้องกินแกลบแทน..ไม่อยากจะเชื่อว่า บีเกิ้ลจะกินทุกอย่างที่ขวางหน้าขนาดนี้นะคะเนี่ยะ…ยอดไปเลย ถ้ารีเลี้ยง ก็คงอ้วนน้อง ๆ เจ้าหญิงแน่ ๆ ค่ะ
(วันนี้ย้อนหลังนำเรื่องของ”ไมโล” เพื่อนสี่ขาที่ซื่อสัตย์ของน้องรีมาโพ้สค่ะ)
อยากถามว่า จริงมั้ยคะ…คนไหนอุ้มน้องหมาเข้าบ้าน นิสัยจะเป็นอย่างคนอุ้ม…ไมโลเนี่ยะ เพื่อนรีชื่อตุ่มอุ้มมาให้..ถึงบ้าน นิสัยถึงดีมาก ถึงมากที่สุด โดยเฉพาะเรื่องการกิน อยู่…กินง่ายมาก ๆๆๆๆๆ ตอนแรกแม่รีกังวลงัย ปกติเลี้ยงแต่หมาจรจัด…เก็บเอาแถวนู้นนี้ หรือมีคนมาให้ ไมโลถือเป็นน้องหมาราคาแพง..แต่น่ารักที่สุด…นิ..ในวัยเด็ก ไมโลซนได้โล่ห์เลย…ช่วงเดือนธค.ปี 42 รีเริ่มปลูกบ้านหลังนี้..ระยะการก่อสร้าง ก็ทำเอาโกลาหล เนื่องจากช่างเทปูนตรงไหน.ไมโลก็จะนำทีม เข้าไปย่ำ..ไมโลเค้าเกิด 2 กพ. 42 มาอยู่บ้านรี ตอนนั้นได้ 2 เดือน…ช่วงธค. มค.รีกลุ้มใจสุด ๆ โดนเตี่ยบ่น ต้องหาที่กั้น…ไม่ให้เข้าบริเวณก่อสร้าง โหย..ไม่สามารถ..รีเลยจับไมโลไปเรียน…ฝึกที่ คอกบ้านเราอยู่ดำเนินสะดวก ระยะเวลาการฝึก 4 เดือน…เดือนละ 5,500… กิน อยู่เสร็จ รีก็ตัดใจ เออ…ไปอยู่ 4 เดือน กลับมาบ้านเสร็จ และก็ได้ลูกที่คลอดแล้วเรียบร้อย…ช่วงที่ฝึกรีไปเยี่ยม..ต้องแอบ ไม่ให้เค้าเห็น..เพราะถ้าเห็นปุ๊บ…ไมโลจะวิ่งไม่สนใจครูฝึกเลย…ต้องฝ่าด่านน้องหมาหลายสายพันธุ์..มีร็อตฯ อัลฯ..โหย..กลัวจะเกิดศึกมาก…เสียงไมโลแหบแห้ง เนื่องจากเห่าไม่หยุด..คงร้องอยากกลับบ้าน…เวลาไปเยี่ยมเสร็จจะกลับ น้ำตาแทบร่วง สงสารค่ะ แต่ถ้าอยู่บ้านก็ซน แถมเตี่ยบ่น…เฮ้อ..ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ไมโลไปเรียนเดือนก.พ.- พค. บ้านเสร็จแล้ว (บ้านรีใช้เวลาปลูก 5 เดือนเป๊ะ) ช่างรับเหมาเป็นแฟนของเพื่อน ดังนั้นเร่งได้ …รีขึ้นบ้านใหม่เมื่อวันที่ 15 พค. 2543 หลังจากนั้นก็ไปรับไมโล..ปรากฏว่า มาถึง เจอลูกแค่ตัวเดียว แจกจ่ายไปหมดแล้ว เหลือน้องสาม..ไว้ให้ชื่นชม ไมโลคงงง…อะไรฟะ…หน้าตาตูออกจะดี ทำไมลูกหน้าตางี้เนี่ยะ..(สามไปทางแม่) แถมมีขาไม่ครบอีก…
กลับมาบ้าน หัดให้คาบหนังสือพิมพ์ เวลาเค้ามาเสียบไว้ที่ประตู…น้ำลายเปียก…หนังสือ เตี่ยบอก ไม่ต้องเลย …ทำไปทำมา ไปเรียน เสียเงินฟรี..ทำไรไม่เป็นเลย บอกให้คอย ก็ไม่คอย หมอบก็ไม่หมอบ อิ อิ สงสัยจะเชื่อแต่ครูฝึก ความจริง ตอนที่เค้าอยู่ ทางครูฝึกบอกว่า เจ้าของต้องไปลองสอน เพื่อให้ไมโลจำคำสั่งจากรี…ปรากฏว่า ไม่ได้ทำเลย ผลเลยเป็นแบบนี้ ถือซะว่า เอาไปฝากเลี้ยง…กลับมา ความซนลดลง ค่อยยังชั่ว…
ไมโลจะน่ารักมากเวลาไปหาหมอ..รีอุ้มกระเตงไมโลไปจน 4 เดือน คุณหมอบอกว่า พี่ไม่ต้องอุ้มแล้ว ตัวใหญ่มากแล้ว…ฮ่า ฮ่า แต่เราอุ้มไหว ก็มันรักนี่…ทุกครั้งที่ป่วย หรือจำต้องไปหาหมอ แค่บอก ไมโล ไป…ได้ยินเสียงโซ่ปุ๊บ ไปนั่งรอที่รถเลย…ตอนได้ 6 ขวบ ไมไล พบอาการโรคไต…ค่าของไตต่ำมากจนน่าตกใจ..รีพาไปรพ. หนองโพ..ซึ่งเป็นอำเภอหนึ่งที่เป็นรพ.ในเครือม.เกษตร..หมอก็วัดไข้ (หมอยังเป็นเด็กหนุ่ม แถมหน้าตาดีมากเลยขอบอก) พอตรวจไข้เสร็จ รีถามหมอว่า คุณหมอคะ ไมไลมีไข่ มั้ยคะ…หมอหน้าแดงก่ำเลย…รีพูดผิด จะถามว่าไมโลมีไข้มั้ย…หัวเราะกันลั่นห้องเลย…จริง ๆ แล้วไมโลอาการไม่ค่อยดีนะคะ แต่กำลังใจเป็นเยี่ยม…พอให้น้ำเกลือ…คุณหมอแนะนำให้ไปรพ.สัตว์เกษตร…ไปตรวจเพื่อความแน่ใจอีกที…ก็พากันไป ออกจากบ้านตี 5 …แล้วไปรพ.สัตว์เกษตร..พี่ลองคิดดูนะ สัตว์ 1 ตัว ผู้ติดตามไม่ต่ำกว่า 2 รพ.เนืองแน่น ไปด้วยเจ้าของและผู้ติดตาม..ทำการตรวจรักษา ไมโลมีอายุยืนยาวมาอีก เกือบ 4 ปี ทั้งที่หมอบอกว่า ไตจะวายอยู่แล้ว…แต่ก็ถือว่าอายุสั้น..นะคะ เค้าตายตอนวันที่ 25 มีค.2008 อายุได้ 9 ขวบ ถึงตอนนี้แล้วเศร้ามาก…รีร้องไห้ไปหลายวัน…ไมโลเค้าตัวใหญ่ ช่วงที่เค้าอาการไม่ค่อยดี ซึ่งรู้อยู่แล้ว ว่าเป็นระยะสุดท้าย ตื่นตอนเช้า รีลุ้นทุกวัน…ว่าวันนี้ไมโลยังมีลมหายใจอยู่หรือเปล่า รีไปจ้างคนงานมาขุดหลุม..ไว้ กว้างใหญ่..เพราะที่บ้านขุดกันไม่ไหวแน่นอน…ตอนนี้ไมโลสงบนิ่งอยู่ใต้ต้นมะม่วง…ทุกวันเดินไป ก็จะบอก ไมโล แม่คิดถึงนะ…ส่วนบัดดี้…ลูกของไมโล ห่างจากไมโลแค่ 8-9 เดือน ตอนนี้ยังอยู่..ตอนนี้อายุเกือบ 12 ขวบแล้ว…
ไว้เล่าใหม่นะคะ
คิดถึงค่ะ
รี
(เผลอหน่อยเดียว เกือบหมดเดือนสิงหาคมแล้ว ยังไม่ได้อัพเดทโพ้สของตัวเอง ก็เลยเลือกเรื่องเล่าสนุกๆของน้องยุรีมาให้อ่านกันค่ะ วันนี้มีเกี่ยวกับความลึกลับด้วยนะคะ)
“ส่วนเรื่อง…วิญญาณ ถามว่าเชื่อไหม..เชื่อสนิทใจเลยพี่..แต่ไม่อยากเจออ่ะกลัว..รีมีเรื่องเล่าให้พี่ฟังเช่นกันนะคะ ทุกวันนี้ยังหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้เลย…เมื่อปี 2529 รีไปอบรมที่สวาคนิวาส..บางปู ของมสธ..ค่ะ..ต้องไปค้าง 2 คืน ..ในห้องนอนก็เป็นเตียงจัดวางเรียงกันประมาณ 4 เตียง…คืนแรกผ่านไป..ตื่นเช้ามาก็มีเรื่องเล่าเช้านี้…เกี่ยวกับเรื่องกุ๊กกู๋..รีก็นึกในใจ..โชคดีที่เราไม่เจอ..คืนที่ 2 ในฝัน…รีเดินเข้าไปในสวน..มีหมอกจาง ๆ พอสลัว ๆ รีเห็นผู้ชายวัยกลางคน…ตัดผมเกรียน ใส่เสื้อและกางเกงแบบคนจีน สีขาวทั้งชุด…เค้าหันมายิ้มให้..รีมองเค้าเสร็จ ถอดแหวนที่ใส่นิ้วก้อย..ส่งให้เค้าเฉยเลย…ตื่นเช้ามาความฝันติดตามาค่ะ แต่ต้องตกใจสุดขีด เมื่อแหวนที่รีใส่นิ้วก้อยอันตรธาน…จากนิ้วก้อยรีไป…รีใจหายวาบเลย..สิ่งที่กลัวที่สุด คือนึกถึงแม่ ..แม่อุตส่าห์ทำแหวนวงนี้ให้พี่เยาว์กะรีคนละวง..เป็นต่างหูพลอยบ่อสีน้ำเงิน แม่เสียสละ ไปทำเป็นแหวน ให้ใส่กันคนละวง…รีนะค้นหา..บนเตียง คิดว่าถ้าฝันแล้วอาจถอนแหวนไว้..พี่หายไปโดยหาคำตอบไม่ได้..พูดถึงทีไร อดขนลุกไม่ได้สักที…เวลาผ่านไปหลายปีมากเลย ไม่กล้าบอกแม่ให้รู้..บางทีรีก็ยืมของพี่เยาว์มาใส่..เพื่อให้แม่เห็น เพราะปกติพี่เยาว์เป็นคนไม่ชอบใส่แหวน รีใส่เป็นประจำ พี่เยาว์ไม่ใส่ แม่ยังไม่สงสัย..แต่ถ้ารีไม่ใส่ แม่จะถามตลอด…จนวันหนึ่งก็สารภาพกับแม่ เล่าทุกอย่างให้แม่ฟัง..แม่ก็ไม่ว่าอะไร…เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่เข้ามาในชีวิต แล้วไม่อาจลืม…เรียกว่า ไม่เชื่ออย่าลบหลู่..ยังเคยคิดว่า ถ้ารีเห็นผู้ชายคนนี้..ที่เป็นมนุษย์เป็น ๆ อย่างเรา ๆ รีจำหน้าเค้าได้แน่นอน..เคยคิดว่า เราจะเจอมั้ย หรือว่าเค้าเป็นเนื้อคู่ของเรา…คิดไปนู่น…
ส่วนเรื่องต้นยี่โถ…ดอกเค้ามีหลายสีนะคะ..ขาว ชมพู แดง…แล้วต้นก็ใหญ่พอสมควร..รีเคยเห็นเค้าปลูกไว้ข้างทาง ชอบ ก็เลย..อยากมาปลูกบ้าง พอปลูกไป…สักระยะ ก็สวยดีค่ะเวลาออกดอก แต่เวลามีกองทัพหนอนมานะ…ขยะแขยงสุดขีด..ตัวเป้ง..แถมอย่างที่บอก ใบมียาง มันมีพิษค่ะ อย่าให้เข้าตาเชียว มีสิทธิบอด ก็เลยโค่นทิ้ง..และไม่คิดจะปลูกอีกเลยค่ะ..เห็นต้นไม้บ้านพี่แล้วรีล่ะทึ่งจริง ๆ มีพืชผักสวนครัวด้วย..อาจเป็นเพราะที่เมืองไทย หาซื้ออะไรก็ง่ายไปหมด ราคาก็ถูก ก็เลยไม่สนใจจะปลูก..รีก็ชอบต้นไม้ ส่วนใหญ่จะเล่นไม้ใบ เนื่องจากว่าเลี้ยงง่าย ไม้ดอก ต้องแดดจัด ๆ ตอนนี้สถานที่มันไม่อำนวยค่ะ ส่วนใหญ่จะมีต้นไม้ใหญ่ เลี้ยงในร่ม ก็เลยต้องปลูกไม้ใบที่ชอบอากาศแบบรำไร ส่วนเตี่ยก็จะชอบปลูกไม้ผล…มะม่วง ชมพู่ มะพร้าว ขนุน กระท้อน มะเฟือง มะปราง ละมุด ลิ้นจี่ เสียดายมะพร้าวมากเลยค่ะ เป็นมะพร้าวน้ำหอม…พอหลายสิบปีเข้ามันสูงยังกะต้นตาล เตี่ยเลยต้องโค่นทิ้ง ชมพู่ก็หนอนเยอะ ไม่ได้ผล โค่นทิ้ง ละมุด ปลูกโรงรถใหม่ โค่นทิ้งอีก ส่วนลิ้นจี่..ตั้งแต่ปลูกมาเป็นสิบ ๆ ปี ออกผลให้ไม่กี่ครั้ง เพราะเค้าชอบอากาศหนาว..หน่อย ตอนออกนะ..ฮือฮากัน เพราะ พอลูกเป็นสีแดง เป็นพวง ๆ สวย เชียวค่ะ แต่ตอนนี้ก็โค่นอีกเช่นกัน เพราะต่อเติมโรงรถ…ส่วนมะปราง..ก็ไม่ค่อยออกเท่าไหร่ ตอนนี้ก็เลยคิดว่า ปลูกไว้ร่มเงา…การโค่นต้นไม้แต่ละต้น รีเสียดายค่ะ..ส่วนต้นกระท้อนที่อยู่หน้าบ้านรี..ตอนปลูกบ้าน..ช่างเค้าจะโค่น..รีไม่ย้อม ไม่ยอม ไม่ได้เด็ดขาด หลังคาต้องหลบต้นกระท้อน..แล้วก็ตัดแต่งกิ่งให้เค้า ตอนนี้รีก็มีที่นั่ง ล้อมต้นกระท้อนไว้ แล้วเว้นช่องให้เค้า…นานเข้า เตี่ยรีเค้าจะต้องมา…จัดการไม้ที่เบียดกับลำต้นกระท้อนเนื่องจาก ลำต้นเค้าใหญ่ขึ้นตามกาลเวลา ตรงนี้จะเป็นมุมโปรดของรี…เวลารีนั่งที่โต๊ะทำงาน..มองออกไปก็จะเห็นพอดี..สบายตาดีค่ะ..
(จากข้อความบางตอนของเมล์ที่น้องยุรีเขียนเมื่อ ๑๘ สิงหาคมค่ะ)
(พอมีเวลา ก็แว้ปเข้ามาทะยอยเอาเมล์ของน้องยุรีมาโพ้สทันที สำนวนแบบสบายๆของน้องยุรี อ่านแล้วคลายเครียดดีค่ะ)
สวัสดีค่ะพี่อ้อย..
เมื่อเช้า สัญญาณของ net เข้าไม่ได้ค่ะ รีเลยมาอ่าน mail ของพี่ช่วงสาย ๆ ทำงานบ้านเสร็จแล้ว..อ่านเสร็จกะว่า บ่าย ๆ ค่อยตอบ เพราะรู้สึกว่า เดี๋ยวได้งีบสักนิด จะทำให้สดชื่น สมองโปร่ง มีอะไรขำ ขำ มาเล่าสู่กันฟัง แถมพออ่านเสร็จ รีก็จะ ลบ เมล์ ขยะที่ส่งมา มือมันพลาดไปลบเมล์ของพี่อ่ะ..กรี๊ด ๆๆๆๆ โมโหตัวเองมากเลย เพราะรีมักจะอ่านเมล์ของพี่ซ้ำไปมาหลาย ๆ เที่ยว อ่านแล้วขำดีอ่ะ…เมล์ที่เขียนมาล่าสุด ก็เลยไม่มีเลย..เมล์ของพี่กะอิ่งรีจะเก็บไว้ต่างหากจากเมล์อื่น ๆ ค่ะ
อ้อ..ส่วนหนังที่พี่ส่งมา รีเปิดในโน๊ตบุ้ค เปิดได้ค่ะ แต่ดูไปนิดเดียวก่อน เนื่องจากเวลาไม่มากพอ เพราะต้องตั้งใจดูอย่างเต็มที่ ไหนจะต้อง แปลอีก เดามั่ง ฟังออกมั่ง แถมไม่มี sub ให้อีก…ก็ดีเหมือนกัน..ฝึกภาษาไปในตัว..555
วันเวลามันผ่านไปเร็วมากเลยค่ะ ตั้งแต่มาเป็นคนทำงานบ้านเต็มตัวเนี่ยะ..เวลายังกะติดจรวด..เล่าให้พี่ฟังคร่าว ๆ อย่างขำ ขำ นะคะ ตื่นตี 4 ดูข่าวบ้านเมืองนิดหน่อย แล้วลงมาเช็คเมล์..บางทีสัญญาณก็ดื้อแต่เช้า เข้าไม่ได้ ก็ต้องรอสาย ๆ ทำงานบ้านเสร็จก่อน เอาผ้าเข้าเครื่อง (ซักวันเว้นสองวัน) พอสว่างรำไร ก็กวาดบ้าน รดน้ำต้นไม้ ช่วงนี้ดีหน่อย ใบไม้ผลิ ฝนตก ไม่ต้องรดน้ำเท่าไหร่..ใบไม้ก็ร่วงไม่มาก ช่วงใบไม้ร่วงนะพี่..กวาดกันทั้งวัน ต้นไม้ที่บ้านเยอะค่ะ เจ็ดโมงกว่า ก็เอาผ้าไปตาก พอใกล้ 8 โมง ก็มาเตรียมอุ่นอาหารให้เตี่ย แม่ พี่ดา แปดโมงครึ่งกว่า ๆ ก็กินข้าวกัน สี่คน..เก็บล้างเสร็จก็ เก้าโมงครึ่ง..ทีนี้งานในแต่ละวันก็คิดไว้ว่าวันนี้จะทำอะไร แต่ตอนนี้งานในบ้านแม่ สะอาดเอี่ยมเรี้ยมเร้เรไร ไปกว่าค่อน..รีจึงมีเวลามาทำต้นไม้ เพาะ ต้นนู้นต้นนี้ไปเรื่อย ๆ ใครมาบ้าน ก็จะบอกว่า แหมเธอมือเย็นเนอะ ปลูกอะไรก็งาม…ใครว่า ไม่เกี่ยวกับมือสักกะหน่อย ยง เย็นอะไรกัน..อยู่ที่ความใส่ใจมากกว่า..เวลาต้นไม้ออกดอก รียังขอบคุณเลย ชม ตามประสา พี่อย่าหาว่ารีเพี้ยนนะคะ..คอยดูแล ใบที่มันแก่ เหลือง รีจะคอยตัด ตลอด วันไหนถ้าทำต้นไม้ กว่าจะได้อาบน้ำ ชำระร่างกาย ก็ปาเข้าไปใกล้เที่ยงนู่น…อาบน้ำเสร็จก็หาหนังสืออ่าน เริ่มง่วง ของีบสักนิด..เล่มเกมส์สักหน่อย..หรือไม่ก็เปิดคอมอีกรอบ แช็ทกะเพื่อนทางเฟซบุค บ้าง..นาน ๆ เจอกันที พอบ่ายสอง ก็โทรสั่งอาหาร..มื้อเย็นและเช้า สั่งควบไปเลย บ่ายสาม ก็จับไม้กวาดอีกรอบ อ้อ..ไปหุงข้าวให้น้องหมาก่อน..กว่าจะเสร็จ ก็ สี่โมงกว่า บางทีก็ยาวไปห้าโมง ก็หาอาหารให้พวกสี่ขาทั้งหลาย ที่มานั่งคอย เสร็จ หกโมง ดูทีวี ทุ่มนึง เตรียมอุ่นอาหาร เก็บล้างเสร็จ สองทุ่ม หรือบางวันมีแผนว่าจะต้องออกไปทำธุระ ไปแบงค์ ก็จะแว่บไปไม่เกิน 2 ชม. อย่างเช่นพรุ่งนี้วันศุกร์ ตอนสามโมงเย็นมีนัดหมอนวดไว้ ที่รพ.เมืองราช ไปนวดมาสองครั้งแล้ว ติดใจค่ะ มันสบาย และผ่อนคลายรีได้มากทีเดียว หรือบางที เดือนนึงจะต้องไปทำเล็บ หนึ่งครั้ง มันเป็นภาระกิจจำเป็นที่รีไม่ชอบ ตัดเล็บเอง อิ อิ คือว่า เล็บเท้ารีเนี่ยะ มันแสนจะขี้เหร่…เลยต้องไปให้ที่ร้านทำให้ดูดีขึ้นมานิดนึง ถึงแม้ว่ามันจะอยู่ส่วนล่างสุด ไม่มีใครมองก็ตาม แถมบางทีทำต้นไม้เยอะ ๆ เอาดินตามซอกเล็บไปฝากช่างอีกตะหาก. วันหนึ่งก็ผ่านไป..แล้ววันรุ่งขึ้นก็ตามมา วนเวียนไปอย่างนี้ค่ะ ช่วงนี้ยังดีที่รู้สึกว่า ยังไม่อยากจะไปเที่ยวที่ไหนเท่าไหร่ เพื่อน ๆ โทรมาจัง เมื่อไหร่มากทม. ไปกินข้าวกัน ไปนู่น ไปนี่..รีก็บอกไปไม่ได้ เข้าใจไหม..คิดถึงก็มาหาแล้วกัน เหมือนจำศีลยังงัยไม่รู้สิ
อ่านเรื่องแหม่มเจน แล้วขำดีค่ะ นึกถึงตัวเองขึ้นมาทันที…ไม่ใช่อะไรหรอก รีน่ะ ชอบแต่งตัว แบบ เชิ๊ต กางเกงยีนส์ ไม่ก็เสื้อยืด ตลอด ตั้งแต่เป็นวัยรุ่น ทุกวันนี้ไปเที่ยวไหนก็ยังนุ่งยีนส์อยู่ จนมีวันหนึ่ง ไปเดินเซ็นทรัลลาดพร้าว มีผู้หญิงคนหนึ่ง ผมยาวสไลด์ ใส่เชิ๊ตสีขาว กางเกงยีนส์ สไตล์รีเลยอ่ะ…หันหน้ามา แทบหงายหลัง ขำกลิ้งเลย เพราะแก่มากกกกกกกกกกกกก….ฮ่า ฮ่า ฮ่า เพื่อนรีบอกว่า นี่หล่อน แก่เท่านี้ ก็ไม่ต้องใส่แบบนี้ก็ได้นะ ชั้นรับไม่ได้…เดี๋ยวเหมือนป้าคนเมื่อกี้หรอก เรียกว่า เห็นข้างหลัง แล้วอยากเห็นข้างหน้า พอเห็นข้างหน้า ข้าก็แทบจะหงายหลัง แต่ช่วงนี้รีน้ำหนักขึ้น กางเกงยีนส์ คับ คับ แทบทุกตัว รีเป็นสาวก ลีวายส์ค่ะ..จะให้ใครก็เสียดาย..อย่างอื่นไม่เคยหวง แต่กางเกงเนี่ยะ..เก็บไว้เป็นที่ระทึก…ว่า สาว ๆ เราช่างหุ่นบางเสียเหลือเกิน
แล้วคุยกันใหม่นะคะ
คิดถึงค่ะ
รี
หลังจากปล่อยให้โต๊ะเขียนว่างๆระยะหนึ่ง น้องยุรีก็อนุญาตให้นำข้อความบางตอนในอีเมล์มาเก็บไว้ที่โต๊ะนี้ ประเดิมการเล่าด้วยเรื่อง….
“ตอน..ปฏิวัติกระติกน้ำ”
“….เมื่อวานพี่ปุ๋ยมาบ้าน…ชมใหญ่เลยว่า ตั้งแต่รีเป็นแม่บ้านเนี่ยะ บ้านเรียบร้อยขึ้นเยอะ…โหย..กว่าจะได้อย่างนี้ บู้ล้างผลาญกะแม่ไปหลายยก…รีจะเล่าเรื่องกระติกจ๋า ขอลาก่อน..ให้พี่ฟังนะคะที่บ้านรีจะต้องทำน้ำแข็งเอาไว้เสมอ..ในช่องทำน้ำแข็ง จะเต็มไปด้วยขันน้ำแข็ง..แม่รีเค้าใช้ขันแบบอลูมิเนียม..มีอยู่ 2 ขันใหญ่มาก เป็นขันสมัยก่อนที่แช่น้ำเอาไว้ ในช่องปกติ เวลาเปิดตู้เย็น..ใครหิว กระหายน้ำ ก็ ยกขึ้นดื่มเลย ที่บ้านมีกี่คน ก็ใช้ขันใบเดียว..นี่แหล่ะ..หูย..นึกแล้ว สยอง (แต่ตอนนั้นรียังเด็ก) ตอนนี้เค้าพัฒนาแล้ว ใช้แก้วใครแก้วเผือก..อิ อิ..แถมยังมีขันเล็ก ๆ อีก 7 ใบ..อลังการงานสร้างมั้ย..แล้วในช่องน้ำแข็ง ขอบอกว่า ซื้อไอศครีมมา ยังไม่มีที่ไว้เล้ย ต้องมาอาศัยความเย็นของที่บ้านรี..ใส่อะไรไว้มากมาย..เป็นอย่างนี้มาไม่รู้ 20-30 ปีได้ (แอนนี่ลูกสาวรีเค้าบอกว่า แม่รีขา..ใบเนี่ยะ แอนเห็นตั้งแต่เกิดอ่ะ) แล้วต้องย้อนกลับไปอีกอ่ะพี่ว่า มันนานแค่ไหน กระติกที่รองรับน้ำแข็ง ก็เป็นกระติกใบใหญ่…กะกินกันทั้งซอย..แต่ก่อนนั้น สวยทำน้ำแข็งทุกวัน..แล้วก็ใส่กระติก…นานทีถึงจะเอาไปล้าง..แต่ปกติรีไม่เคยกินน้ำเย็นเท่าไหร่..ช่วงทุกสิ้นเดือนสวยกลับบ้าน แม่รีก็จะกังวลกะการทำน้ำแข็งตลอดเวลา นั่งคุย ๆ อยู่ อุ้ย แม่ยังไม่ได้ทำน้ำแข็งเลย…ทำเป็นเรื่องใหญ่ ทีนี้เวลาทำน้ำแข็งทีนึง ไม่ธรรมดาพี่ ขันใหญ่ 2 ใบ เล็ก ๆ อีกมันหนักนะ..แถมเวลาทำน้ำแข็ง ก็ต้องเอาน้ำในกระติกที่เย็นน่ะ ทำเป็นน้ำแข็ง ไม่ยอมใช้น้ำในแกลลอน ซึ่งถ้าเอาขันเรียงกัน เอาน้ำเท แล้วก็แช่เลยก็จบ..แต่แม่รีทำเรื่องให้มันยากส์ กว่านั้น โดยให้เหตุผลว่า ..เอาน้ำธรรมดา ทำ กว่าจะเย็น เปลืองไฟ อ้าว..เอากะแม่สิ..ใช้น้ำเย็นเนี่ยะ เป็นน้ำแข็งเร็ว ไม่เปลืองไฟ หูย แม่คิดมากไปรึป่าวเนี่ยะ..ก็ต้องเอาขันจ้วงลงไปในกระติก…รีถามว่า แม่ ใต้ขันเนี่ยะ รีว่าไม่ค่อยสะอาดหรอกนะ..แกไม่ต้องมายุ่ง…ชั้นทำแบบนี้มานานแล้ว…อีกและ…แถมเวลาจะตักน้ำกิน ก็ต้องก้ม..รีจึงหาวิธี จัดการกระติกใบนี้..พอสวยไม่อยู่ หน้าที่ทำน้ำแข็งก็ต้องตกมาเป็นของรี..รีก็คิด บ้านแม่กินน้ำแข็ง อยู่ 2 คนคือ พี่ดา กะแม่ ส่วนเตี่ยรี เค้าชงชากิน..ส่วนรี ก็มากินน้ำที่บ้านซึ่งไม่เย็น.แถมพี่ดา…กินเช้าและเย็นเท่านั้น ระหว่างวันก็ไม่เคยอยู่บ้าน..รีก็แนะนำแม่ว่า บ้านเนี้ย..กินกันอยู่แค่นี้ แม่ เปลี่ยนเป็นกระติกใบเล็กเถอะ และทำน้ำแข็งให้น้อยลง ขันใบใหญ่ แม่เห็นมั้ย มันหนักจนทำให้ชั้นในตู้เย็น มันร้าว…จนต้องเอาผ้าเทปใสไปปิดไว้..มี 2 ชั้น ร้าวทั้ง 2 รอวันให้มันแตกทั้งชั้น..เฮ้อ..เหนื่อย…จนวันหนึ่งรีเอาของรางวัลที่พี่ดาได้มาจากการขายของ..พี่ดา พี่แอ๊ด ได้ของรางวัลเยอะมาก..สะสมไว้เต็มบ้าน มีทุกอย่าง หม้อหุงข้าว กระติกน้ำร้อน ถ้วย โถ..สารพัดบรรยายไม่หมด…ตอนนี้ได้เตาแก๊สอินฟราเรดมาอีก..
(อาทิตย์นี้พี่ปุ๋ยยังจิ๊ก..กระติกน้ำร้อนพี่ดาไปใบนึงเลย ที่บ้านเค้าเสีย..ไม่ยอมซื้อใหม่..เค้าบอกที่บ้านเรามีเยอะ..555 ก็จริงอ่ะ)
รีขึ้นเอาของไปเก็บ ก็จัดระเบียบเล็กน้อย จัดไปรื้อค้นไป..ปรากฏว่าไปเจอกระติก..น้ำใบย่อม…สีเขียว มีก๊อกไว้กด…555 เอาลงมาให้แม่ดู..บอกว่า รีค้นเจอ..แม่เปลี่ยนใบนี้เถอะนะ..วางตรงนี้..ทำน้ำแข็งวัน 6 ขันเล็กก็พอ ใบใหญ่..เลิกใช้เถอะ แล้วก็อ้างถึงชั้นที่มันจวนจะแตกแล้ว…เค้าโอเเค..แหม..ดีใจสุด ๆ เลย เปลี่ยนเสร็จ ก็ชื่นชมกะกระติกใบใหม่..โหย..เหมาะเหม็งเจ๋งเป้งซะจริง ๆ อ้าว ได้เวลาขึ้นไปจัดของที่รื้อกระจายเมื่อกี้ต่อ…จัดไปจัดมา ไปเจอกระติกอีกใบ..ไฉไลกว่าเดิม..แต่ขอโทษนะ กล่องที่ใส่น่ะ มันเก๋า กึ๊กส์..ฝุ่นงี้เกาะเพียบ..เปิดออกมา เป็นกระติกน้ำ…สวยกว่าใบเมื่อกี้อีก..มีฐานไว้รอง…มีที่วางแก้ว..หูยสวยแฮะ..รีก็ เอาไงดีเนี่ยะ..วิ่งเอามาให้แม่ดู…แม่ ใบนี้สวยมั้ย..แม่รีบอก เอา เอาใบใหม่ดีกว่า ใบนั้นน่ะ บ้านนอก…555 เป็นงัย…ตอนนี้รีก็เลยได้ใช้กระติกใบใหม่ ทำน้ำแข็งใบเล็กแค่ 6 ขัน มีช่องว่างสำหรับแช่ไอศครีม..หรืออยากแช่อะไรอย่างอื่น..พี่เยาว์บอกว่า นายทำได้ยังงัยเนี่ยะ…อ้าว..ก็ให้คนชั้นปัญญาชนมาเป็นแม่บ้านก็งี้แหล่ะ..อิ อิ ส่วนกระติกใบบ้านนอกนั้น พี่ปุ๋ยเอาไปและ…เค้าอยากได้ลูกที่รีใช้อยู่ เรื่องอะไรให้..จิงป่ะ..เอาใบบ้านนอกไปแล้วกัน มางวดนี้ พี่ปุ๋ยคุ้มมาก..ได้กระติก ทั้งร้อนและเย็นไปเลย จบ…
ตอนนี้ใกล้ 6 โมงเช้าแล้ว..เด๋วรีจะไปซื้อของที่หน้าวัด ตับกะไก่หมด..อ้อ…ที่พี่บอกจะก๊อปของรีไปลงที่ไหนน่ะ..ได้เลยพี่..ตามสะดวก ถ้าพี่เห็นว่า สามารถเอาไปให้คนอื่นอ่านได้ เค้าไม่รำคาญ ไว้คุยใหม่นะคะ
คิดถึงค่ะ
รี
“ความสุข…อาจทำให้ลุ่มหลง
ความ ทุกข์…ทำให้รู้จักชีวิต
จึงควรขอบคุณความทุกข์บ้าง”
“เพียงคิดช่วยเขา…ใจเราก็ สุขแล้ว
เพียงคิดเบียดเบียนเขา…ใจเราก็ทุกข์แล้ว”
“น้ำทำให้เรือลอยได้ ก็ทำให้เรือล่มได้
ทรัพย์สินเงินทอง ทำให้คนเป็นสุขได้ ก็ทำให้คนเป็นทุกข์ได้”
“การ มองข้ามงานเล็กไป จะทำให้งานใหญ่ไม่สำเร็จ”
“เพ่งโทษตน…เป็นบัณฑิต
เพ่งความผิดคนอื่น…เป็นพาล”
“ก้าวแรก ก้าวต่อๆ ไป และก้าวสุดท้าย สำคัญพอๆ กัน
ขาดก้าวใด ก้าวหนึ่ง ชีวิตจะถึงที่หมายไม่ได้”
“คลื่นลม ทำให้ทะเลสวย อุปสรรคทำให้ชีวิตงาม .. บุคคลจึงไม่ควรยอมแพ้เมื่อพบอุปสรรค”
“หากครั้งนี้ล้มเหลว ครั้งต่อๆ ไปต้องสำเร็จ .. เพราะความสำเร็จ มักมาหลังจากความล้มเหลวเสมอ”
“ความวิตกกังวลใจเป็นโรคร้ายของชีวิต
ถ้า ปล่อยก็ว่าง ถ้าวางก็จะเบา ถ้าเอาก็จะหนัก
ความยิ้มแย้มแจ่มใสเป็นอุบาย สร้างสันติ”
คาถาการทำงาน
“การทำงานคือการพักผ่อน
ทำงานเพื่องาน ไม่ใช่ทำงานเพื่ออะไร
คนโง่ทำงาน แล้วทุกข์ คนฉลาดทำงานแล้วสุข”
…..หลวงพ่อ ปัญญานันทภิกขุ
ยุ่งยาก กับ เยือกเย็น
“ใน ยามที่เราพบกับความยุ่งยาก ต้องพึ่งพาความเยือกเย็น
ค่อยๆ ย้อนลงไปแยกแยะสาเหตุแห่งปัญหา ที่ทำให้เราเร่าร้อน”
“เราจะเอาชนะความ ยุ่งยากของชีวิตได้
ด้วยการเอาชนะความวิตกกังวลที่เกิดขึ้นในใจของเรา เสียก่อน”
“จงมองดูความวิตก กังวลของตนเอง
มองดูว่ามันทำให้เราเอาชนะปัญหาของเรา
หรือมันทำให้ เราหมดพลังและพ่ายแพ้”
“ปัญหา ต่างๆ ของชีวิต ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป
ความทุกข์ยากที่เราคิดว่ามันแสน สาหัสสำหรับเราในวันนี้
ในวันข้างหน้าเราอาจรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องเล็ก น้อย..”
—————————–
หวังว่าคงทำให้คนที่ใจท้อแท้ อ่อนแอไม่ว่าเรื่องใดๆ ได้อ่านแล้วคงทำให้แง่คิดกันบ้าง
อยากให้มีความสุขกันทุกคน หรือ ถ้าไม่สุข ก็ทุกข์ให้น้อยลง .. นะคะ
หนุกดีค่ะ…เกือบทุกเรื่องเลย..โดยเฉพาะเรื่องแหวน
LikeLike
ด่วนจ้ะ น้องยุรี
มีคอมเม้นท์มาจากคนอ่านถึงแน่ะ อย่าลืมตอบนะจ๊ะ
LikeLike