จำเป็นต้องบ่นเพราะเบื่อจริงๆ
ประเทศอเมริกาเป็นประเทศที่มีระบบบริการสังคมที่เข้มงวดไปด้วยกฎเกณฑ์ต่างๆมากมายเพื่ออำนวยประโยชน์และคุ้มครองผู้บริโภคอย่างเต็มที่ ซึ่งในส่วนดีก็คือลูกค้าหรือผู้บริโภคสามารถร้องเรียนหรือเรียกร้องค่าเสียหายต่างๆจากผู้ประกอบการได้ในกรณีที่ได้รับความเสียหายหรือไม่ชอบใจในสินค้าหรือบริการที่ตนเองเสียเงินไป แต่ในส่วนเสียนั้น ทำให้บางคนรู้สึกเหลิงและหลงระเริงกับการเรียกร้องต่างๆทั้งๆที่บางทีตัวเองนั่นแหละเป็นฝ่ายผิดชัดๆ การที่ผู้เขียนมีโอกาสทำงานกับพวกฝรั่งมานานหลายปีนั้น มันก็เลยมีทั้งข้อดีข้อเสียที่ต่างฝ่ายต่างได้เรียนรู้ซึ่งกันและกัน เพราะฝรั่งบางคนนั้นถูกตามใจจากระบบบริการต่างๆมาซะจนเคยตัว เลยเริ่มมั่วๆคิดไปว่าตัวเองเป็นเทวดาที่ต้องมีสิทธิ์พิเศษเหนือคนอื่น ได้แค่นี้ก็อยากได้มากกว่าเก่าและอยากได้มากที่สุด บางคนขี้บ่นขี้ฟ้องร้องเอาแต่ได้ฝ่ายเดียว จนบางทีผู้เขียนไม่อยากเชื่อว่าคนประเภทนี้จะมีอยู่ในระบบสังคมที่เสมอภาคอย่างอเมริกา ทั้งๆที่ตัวเองก็รู้กฎเกณฑ์กติกาต่างๆที่เขาระบุไว้อย่างชัดเจนแล้ว แต่บางทีก็ทำเป็นแกล้งไม่เข้าใจ…แกล้งลืม…และแกล้งเซ่อผสมโง่บวกกับงี่เง่า ตัวอย่างเช่น..ที่ทำการไปรษณีย์(ในตำบลเล็กๆ)ที่ผู้เขียนทำงานอยู่ขณะนี้นั้น พวกบรรดาผู้ใช้บริการทั้งหลายก็รู้ทั้งรู้ว่าที่ทำการไปรษณีย์เขามีกำหนดเวลาเปิดและปิดที่แน่นอนตายตัว แต่ก็ยังทำเป็นมั่วมาอีตอนที่เขาใกล้จะปิด เพื่อถ่วงเวลาให้ปิดช้าลงกว่าที่กำหนด ทั้งๆที่วันทั้งวันก็มีเวลาเหลือเฟือ จะมาตอนไหนก็ได้ ที่ไม่ใช่ภายในสองหรือสามนาทีก่อนไปรษณีย์ปิด บางทีโทรมาถามว่าจะปิดตอนไหน? พอบอกก็ยังจะมาต่อรองว่าให้รอก่อนได้ไหม?จะรีบออกจากบ้านมาเดี๋ยวนี้เพื่อส่งพัสดุ พอถามย้อนกลับไปว่าคุณไปสั่งไปรษณีย์ตามเมืองใหญ่ๆให้เขารอคุณคนเดียวในช่วงพักเที่ยงหรือตอนปิดทำการไปแล้วเนี่ย เขาจะรอคุณหรือเปล่า?ก็ทำเป็นเอะอะโวยวายตึงตังมาทางโทรศัพท์เลยเชียวล่ะ หาว่าบริการไม่ดี ไม่มีความเห็นใจผู้ใช้บริการบ้างล่ะ ขู่เป็นของแถมอีกต่างหากว่าจะร้องเรียนไปที่ศูนย์กลางใหญ่ที่เมืองRochesterโน่น เพราะตัวหล่อนเองจะต้องรีบขับรถออกมาจากฟาร์มกว่าจะมาถึงก็ต้องใช้เาลาเดินทางเกินไม่น้อยกว่าสิบห้านาที … Continue reading