สงสารสภาพบ้านหลังนี้เหลือเกิน ดูมันเก่าทรุดโทรมไปเยอะกับการเวลาที่ผ่านไป อีกทั้งเมื่อไม่มีข้าวของมากมาย เหมือนที่เคยมี มันก็ดูยิ่งเงียบเหงาเป็นทวีคูณ เป็นการจากลาที่ไม่ง่ายเลยจริงๆ
หลังจากนั่งทำใจอยู่นานกับการจากลาถิ่นเก่า จึงได้เรียนรู้ว่าชีวิตของคนเรานั้นมีการเปลี่ยนแปลงไม่จบสิ้น ตราบใดที่ยังมีลมหายใจอยู่บนโลกนี้ เพียงแต่ว่าจะทำใจกับการเปลี่ยนแปลงได้มากน้อยแค่ไหน การมีชีวิตอยู่คือการฝึกฝนกับความเปลี่ยนแปลงและความเป็นไปแห่งโชคชะตา บางคนไม่อาจยอมรับกับความเปลี่ยนแปลงใดใดได้เลย ก็ต้องจมปลักกับความเคยชินเก่าๆของตัวเองและหดหู่กับความแปลกใหม่ที่ต้องเผชิญ บางคนไม่ยึดติดกับอะไรทั้งนั้นจึงง่ายกับการจากลาจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง สนุกสนานเบิกบานใจกับการเดินทางไปในที่ต่างๆ
เคยคิดใฝ่ฝันนานแล้วนะกับการเดินทางไปตามเมืองเล็กๆเงียบๆที่ไหนก็ได้ในโลกนี้ อยากเรียนรู้ชีวิตผู้คนหลากหลายสถานที่ อยากไปแบบมีห่อผ้าห่อเดียว และมีอาหารแห้งอีกสักห่อเพื่อกินประทังชีวิตไปวันๆ และมีความสุขกับการไปสอนหนังสือเด็กๆที่ยากจน หรือช่วยเหลือผู้คนผู้ยากไร้ตามที่กันดาร เวลาว่างขอเพียงได้นั่งอ่านหนังสือหรือวาดรูป หรือนั่งดูทุ่งนาข้าวเขียวขจีในยามอาทิตย์ขึ้นและลง ชีวิตกับการเดินทางสันโดษแบบนี้สินะ ที่ใครต่อใครหลายร้อยคนพยายามใฝ่ฝัน แต่มันก็ยากนักที่จะเป็นจริง เพราะในโลกใบนี้ ผู้คนส่วนใหญ่มักชิงดีชิงเด่นกันเรื่องอำนาจ ขยายสงครามที่โหดร้ายไปทุกที่
จิตใจเตลิดไปไกลแสนไกล กลับมาดึงใจเพื่อเตรียมให้มันรู้ว่า ใดใดในโลกนี้ล้วนอนิจจัง เพราะฉะนั้น การจากลาถิ่นเก่าในครั้งนี้ก็คือส่วนหนึ่งของความเปลี่ยนแปลงชีวิต กลับมาเถิดจิตใจ กลับมาเพื่อการจากไกล และให้เหลือไว้คือความทรงจำที่งดงาม ตราบนานเท่านาน….ชีวิตคือการเดินทางไปในถนนที่พระผู้เป็นเจ้ากำหนดมาให้เดิน จากที่หนึ่ง…ไปที่หนึ่ง…และไปอีกที่หนึ่ง…เรื่อยๆเสมอ…ไกลหรือไกล ก็ต้องไปไม่อาจฝ่าฝืนกำหนดแห่งโชคชะตาได้เลย