วันคริสต์มาสปีนี้มีสีขาวโพลนด้วยหิมะโปรยปรายข้างนอกบ้านตลอดทั้งวัน อากาศช่างหนาวจับใจ บรรยากาศแบบนี้ทำให้ผู้เขียนคิดถึงบ้านหลังเก่าที่เคยอยู่ เพราะที่นั่นมีเตาผิงกลางห้องรับแขก เคยนั่งมองดูเปลวไฟที่กำลังลุกท่วมกองฟืนในเตา ดูเปลวไฟสีแสดเต้นระบำอย่างเริงร่า พร้อมไออุ่นจากเตากระจายทั่วห้อง กลิ่นไม้เนื้อหอมที่กำลังถูกเผา และกลิ่นอาหารจากเตาอบในครัวที่อบอวลทั่วบ้าน ช่างเป็นบรรยากาศแบบHome Sweet Home ซะเหลือเกินเชียวล่ะ
ต่างจากบรรยากาศบ้านหลังใหม่ที่ไม่มีเตาผิง แม้จัดเตรียมอาหารและตบแต่งต้นคริสต์มาสเหมือนทุกๆปี แต่ดูเหมือนว่าอะไรอย่างหนึ่งขาดหายไป แอบมองดูบ้านข้างบ้าน ซึ่งเป็นบ้านหลังเดียวในแถวนี้ที่มีปล่องเตาผิงบนหลังคา มีควันพวยพุ่งออกมาเรื่อยๆ ดูช่างเป็นบรรยากาศคริสต์มาสแบบโรแมนติกจังเลย กองฟืนกองใหญ่ที่เขาจัดเรียงอย่างเป็นระเบียบไว้ข้างบ้านดูจะกองเล็กลงไปเรื่อยๆ สมัยนี้ค่อนข้างจะหายากนะสำหรับการใช้ฟืนจากต้นไม้มาเผาในเตาผิง เพราะเตาผิงสำเร็จรูปมีขายมากมายสารพัดรูปแบบ แถมไม่ต้องจุดไฟจุดฟืนให้สิ้นเปลือง ความร้อนก็มาจากการใช้แก๊ส ใช้ไฟฟ้าแทน อะไรๆก็กลายเป็นของสำเร็จรูป ที่สะดวกซื้อกันทั้งนั้น แม้กระทั่งต้นคริสต์มาสเขาก็มีขายแบบบรรจุกล่องสำเร็จรูปอาหารกล่องแช่แข็ง(แบบสำเร็จรูปอีกแหละ)สำหรับนำมาอุ่นจัดเตรียมเลี้ยงสังสรรค์ในวันคริสต์มาสก็มีมากมายให้เลือกไม่หวาดไหว คงเหลือแต่หิมะและความหนาวเท่านั้น ที่ยังไม่มีขายแบบสำเร็จรูป เพราะฉะนั้นบรรยากาศที่แท้จริงของวันคริสต์มาสก็เริ่มลางเลือนไปจากแบบดั้งเดิม เนื่องจากเทคโนโลยี่มีบทบาทเข้ามาเปลี่ยนแปลงวิถีการดำเนินชีวิตและสภาพแวดล้อมต่างๆอย่างไม่หยุดยั้ง ส่วนข้อดีข้อเสียก็แล้วแต่ว่าใครจะชอบอะไรแบบไหน แต่สำหรับผู้เขียนแล้วมีความเห็นว่าชีวิตที่ห่างไกลไปจากธรรมชาติมากเท่าไหร่ ดูเหมือนว่าสังคมของมนุษย์ก็ยิ่งจะเหมือนหุ่นยนต์มากขึ้นเท่านั้น เพราะปล่อยให้เทคโนโลยี่เข้ามามีบทบาทใส่โปรแกรมสำเร็จรูปให้ในชีวิตแทบทุกอย่าง อะไรนิดอะไรหน่อยก็กดปุ่มหาในคอมพิวเตอร์ หรือกดโทรศัพท์มือถือเอาไว้ก่อน ส่วนคนจริงๆที่อยู่ใกล้ๆกลับไม่มีโอกาสได้พูดคุยกัน มีหลายบ้านที่คุยกันทางอีเมล์ ทั้งๆที่ยังนั่งอยู่ในบ้านเดียวกัน ห้องเดียวกัน
ความรู้สึกในวันนี้ที่เขียนก็เพราะเสียดายและคิดถึงบรรยากาศแบบดั้งเดิมของวันคริสต์มาสเท่านั้นเอง
บางทีก็เสียดายที่ประเทศไทยมีช่วงอากาศหนาวที่สั้น
โดยเฉพาะในกรุงเทพเเทบจะนับวันที่อากาศเย็นได้เลย
อารมณ์ที่จะมานั่งผิงไฟกับเตาผิง ล้อมวงกันก็เลยไม่มีกับเขาบ้าง
LikeLike
ขอบคุณนะคะที่แวะมาทักทายบล๊อคเล็กๆนี้ ถ้านึกถึงบรรยากาศผิงไฟที่เมืองไทยบ้านเรา ต้องนึกถึงภาพตามชนบทไกลๆ หรือหมู่บ้านเล็กๆตามขุนเขาค่ะ ก่อกองไฟข้างกองฟางในคืนที่มีแสงจันทร์กระจ่าง นั่งรอบวงหลายๆคนคุยกัน เป็นบรรยากาศที่แสนสงบและอบอุ่นยิ่งนัก
LikeLike