โจโฉตัวละครที่สำคัญในวรรณกรรมสามก๊กที่มีบทบาทเพิ่มรสชาดให้กับเรื่องราวในสามก๊กได้ดำเนินไปอย่างสนุกสนานชวนติดตามนั้น ใครที่อ่านสามก๊กก็มักจะเทคะแนนด้านลบให้โจโฉในความเจ้าเล่ห์ รู้ทันคน ฉลาดแกมโกง และโหดสุดๆ แต่ในความอำมหิตใจดำและรู้มากของโจโฉนั้น มีสิ่งหนึ่งที่เป็นจุดเด่นและชวนคิดคือ เขามีคติประจำใจว่า”ต้องทรยศต่อโลก ก่อนที่โลกจะทรยศต่อเขา” แม้กระนั้นก็ตามโจโฉก็ไม่ได้เป็นทรยศโลกเต็มร้อยซะทีเดียว เพราะอะไร เราลองมาติดตามดูโจโฉในบางเหตุการณ์ที่สำคัญเลยนะคะ
โจโฉจะฆ่าและทำลายทุกคนที่เขาคิดว่าจะนำภัยอันตรายมาสู่ตัวเขาในภายหน้า แม้ว่าบุคคลผู้นั้นจะดีแสนดีและเคยช่วยเหลือเขาก็ตาม โจโฉไม่แคร์ในความรู้สึกของใครว่าจะตัดสินเขาว่าดีหรือชั่ว เพราะอะไร? นี่คือคำถามที่ผู้เขียนเคยสงสัยมานาน นับตั้งแต่ที่เริ่มรู้จักโจโฉและบทบาทของเขาในตัวหนังสือสามก๊ก
หลายคนสรุปว่าโจโฉเป็นคนเนรคุณคน ขี้ระแวงในความดีของคนอื่นที่พยายามทำดีต่อเขา เป็นคนที่เลวบริสุทธิ์ เป็นตัวอย่างของคนโฉด ไม่ควรเกิดมาในโลกนี้ด้วยซ้ำ
แต่ในโลกนี้พระเจ้าไม่ได้สร้างคนเลวบริสุทธิ์หรือคนดีบริสุทธิ์ แบบร้อยเปอร์เซ็นต์เต็ม มันต้องมีจุดใดจุดหนึ่งที่เป็นความแตกต่างให้โลกได้เห็นบ้าง โจโฉก็เช่นกัน ในฉากสงครามรบตอนที่จูล่งอุ้มโอรสของเล่าปี่คืออาเต๊า ขี่ม้าขาวคู่ใจของเขาตีฝ่าวงล้อมข้าศึกซึ่งเป็นทหารของโจโฉล้วนๆที่เนินรบเตียงปัน จูล่งนักรบผู้หาญกล้าและมากด้วยความสามารถในการรบ รบด้วยฝีมือล้วนๆของเขาอย่างเดียวดายในกองทหารนับร้อยนับพันของศัตรู โจโฉเฝ้ามองดูจูล่งอยู่ด้วยความทึ่งกึ่งชื่นชมในความหาญกล้าของสุภาพบุรุษนักรบผู้นี้ ถ้าหากโจโฉตั้งใจจะทำร้ายหรือสั่งทหารให้ช่วยกันยิงเกาฑันณ์ฆ่าจูล่งเสียเลยตอนนั้นก็ย่อมทำได้อยู่แล้ว แต่โจโฉกลับสั่งทหารของเขาห้ามใช้เกาทัฑณ์ยิงจูล่งเด็ดขาด และห้ามจับตายด้วย เขาเพียงให้ทหารถามชื่อจูล่ง และเฝ้าลุ้นจูล่งสู้รบอย่างเงียบๆ เพราะเหตุนี้จูล่งจึงรอดชีวิตพาอาเต๊ากลับถึงมือของเล่าปี่ได้อย่างปลอดภัย ตรงนี้เองที่ผู้เขียนเห็นเงาสะท้อนอีกเงาหนึ่งของโจโฉ เขาเป็นคนที่มีน้ำใจนักกีฬาพอสมควร ยอมรับในฝีมือศัตรูที่เหนือกว่าเขาด้วยความชื่นชม มิใช่เสแสร้ง แม้ว่าภาพส่วนรวมของโจโฉคือสวมบทบาทของคนเนรคุณที่เลวและร้ายก็ตาม
โจโฉชื่นชมกวนอูและอยากได้ตัวกวนอูมาอยู่ด้วย เคยพยายามทุกวิถีทาง แต่ก็มิอาจเอาชนะใจของกวนอูได้ โจโฉจึงจำต้องปล่อยกวนอูกลับไปหาเล่าปี่ด้วยความอาลัยและเสียดายยิ่งนัก นี่ก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่โจโฉแสดงให้เห็นถึงความเป็นหัวหน้าที่ดีอ่านจิตใจคนได้ลึกซึ้งพอสมควร เพราะเขารู้ดีว่าหากได้กวนอูมาอยู่กับเขา ก็ได้เพียงกายของกวนอูมาเท่านั้น แต่ใจของกวนอูหาจงรักภักดีต่อเขาไม่ แล้วจะเกิดประโยชน์อันใดเล่า ความคิดนี้นี่เอง ต่อมาจึงทำให้โจโฉรอดชีวิตและปลอดภัยในการฝ่าวงล้อมของทัพเล่าปี่ ซึ่งขงเบ้งเป็นผู้วางหมากเกมให้กวนอูไปดักรอตีกระหน่ำทัพของโจโฉอีกด้านหนึ่ง เพราะขงเบ้งรู้ว่ากวนอูเป็นคนที่ซื่อสัตย์กตัญญูรู้คุณคน อย่างไรเสียกวนอูก็จะไม่ฆ่าโจโฉแน่นอน เพราะกวนอูคิดถึงบุญคุณที่โจโฉเคยปล่อยให้เขากลับมาหาเล่าปี่โดยปลอดภัย เมื่อทุกอย่างเป็นไปตามที่ขงเบ้งคาดการณ์ไว้ โจโฉก็รอดชีวิตจากเงื้อมมือของกวนอูกลับฮูโต๋ธานีโดยปลอดภัย
ในความเป็นคนทุกคนย่อมมีดีและชั่วปะปนกันเสมอ แม้คนที่ร้ายและเลวสุดๆอย่างโจโฉ ก็ยังมีกฎของความดีที่พระเจ้าจารึกให้ในสามัญสำนึกเช่นกัน
โจโฉเป็นตัวละครที่สร้างสีสันให้กับเรื่องสามก๊กมากที่สุดและใช้เป็นบทเรียนได้ดีมาก
LikeLike
ขอบคุณมากค่ะที่แวะเข้ามาอ่านและคอมเม้นท์ในBlogนี้
LikeLike
ขอบคุณมากค่ะที่แวะเข้ามาอ่านและคอมเม้นท์ในBlogนี้ ยินดีต้อนรับค่ะ
LikeLike