ชีวิตและเวลาเป็นสิ่งที่แยกกันไม่ออก หรือจะเรียกว่าเป็นสิ่งเดียวกันก็ได้ เพราะการใช้ชีวิตก็คือการใช้เวลานั่นเอง สิ่งที่แตกต่างกันคือแต่ละชีวิตมีกำหนดเวลาไม่เหมือนกัน บางคนอาจมีโอกาสใช้เวลาถึงร้อยกว่าปี บางคนอาจมีแค่ห้าสิบหรือหกสิบปี ในขณะที่บางชีวิตอาจมีเวลาเพียงวันเดียวหรือชั่วโมงเดียวก็ต้องจากโลกนี้ไป เช่นทารกแรกเกิดที่มีปัญหาสุขภาพในช่วงที่ยังอยู่ในครรภ์มารดา พอคลอดออกมาบางกรณีหมอไม่สามารถช่วยชีวิตไว้ได้
การมีชีวิตอยู่ บางคนก็ไม่ตระหนักถึงคุณค่าของเวลาและใช้มันอย่างฟุ่มเฟือยไร้สาระ เช่นการทุ่มเทเวลาในบ่อนการพนันโดยอ้างว่าเป็น”การฆ่าเวลา”ดีกว่าอยู่เปล่าๆ แต่ขอโทษเถอะค่ะ”คุณฆ่าเวลา หรือเวลาฆ่าคุณกันแน่?” คุณอาจจะบอกว่า”ข้าฯกำลังเซ็งกับชีวิต หรือเบื่ออะไรต่ออะไรหลายอย่าง สู้มาเล่นฝึกสมองลองปัญญาในบ่อนไพ่ดีกว่า” แต่ลืมคิดไปว่าโอกาสที่จะร่ำรวยจากการพนันนั้น มีเปอร์เซ็นต์น้อยมากในโลกใบนี้ จึงเป็นการสูญเปล่าทั้งเวลาและเงินทองอย่างน่าเสีบดายยิ่ง จริงอยู่เงินทองอาจหามาแทนได้ใหม่ แต่สำหรับ”เวลา”เมื่อเสียไปแล้วก็ไม่เคยมีใครในโลกกลับไปเก็บมันกลับคืนมา หรือไปซื้อหาเวลามาทดแทนได้อีกเลยชั่วชีวิต…
บางคนอ้างว่าการมีชีวิตอยู่ขณะนี้ คือการใช้กรรมเก่าในอดีตชาติ เพราะฉะนั้นไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับชีวิตชาตินี้ก็สุดแท้แต่เวรกรรม ไม่ต้องการดิ้นรนแก้ไขให้ดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ รอเพียงว่าตายเมื่อไหร่ คงจะไปเกิดในชาติหน้าที่มีชีวิตดีกว่านี้ นั่นเป็นเพียงความหวังสุดท้ายของคนประเภทนี้ โดยที่ไม่รู้ว่าชาติหน้าที่ใฝ่ฝันจะได้เกิดนั้น จะได้เกิดแน่หรือเปล่า? หรือถ้าได้เกิดจะเกิดเป็นคนหรือเปล่า? เพราะชาตินี้ไม่เคยสร้างบุญกุศลอะไรไว้เลยสักอย่าง จะหวังได้อย่างไรว่าชาติหน้าจะมีชีวิตที่ดีกว่านี้? ระยะเวลาระหว่างชาตินี้และชาติหน้าก็ไม่มีใครรู้ว่าห่างกันกี่สิบหรือกี่ร้อยปี แล้วทำไมล่ะ? ทำไมจึงไม่ใช้เวลาในชาตินี้ ปีนี้ เดือนนี้ วันนี้ และชั่วโมงนี้ให้เป็นประโยชน์ขึ้นมาบ้าง?
เวลาในปัจจุบันเท่านั้นที่เรามีสิทธิ์ครองครองมันอย่างเต็มที่ หากเรามุ่งหวังอะไรสักอย่างในอนาคต เราต้องใช้เวลาที่มีอยู่หรือเป็นอยู่ในขณะนี้เท่านั้นที่จะก่อสร้างเส้นทางเดินไปสู่จุดหมายข้างหน้าได้ สมมุติว่าเราอยากมีบ้านสวยๆสักหลัง หากเราแค่นั่งฝันแบบลมๆแล้งๆว่าจะมีนางฟ้าจากสวรรค์ลงมาเนรมิตรให้ หรือเฝ้าภาวนารอให้ถูกรางวัลใหญ่ๆอะไรสักรางวัลก่อน เราก็คงต้องรออยู่อย่างนั้นจนกว่าถึงวันลงไปนอนในโลงโดยไม่ได้อะไรขึ้นมาสักอย่างในชีวิต
แต่หากเรามุมานะ เริ่มสร้างฐานะตัวเอง เริ่มเก็บสะสมเงินทุนไปทีละเล็กละน้อย สิ่งที่เราใฝ่ฝันก็จะเริ่มเป็นรูปร่างขึ้นมาทีละเล็กละน้อยจนชัดเจนขึ้น ไม่ใช่ภาพเบลอๆหรือภาพหลอนให้ใจกระเจิงอย่างไร้หนทางเป็นจริงอีกต่อไป การที่เรารู้จักเริ่มสร้างความหวังให้เป็นจริงขึ้นมานี้เองคือการใช้เวลาอย่างมีคุณค่า
เวลาเป็นสิ่งเดียวที่ไม่มีใครในโลกสามารถสะสมเอาไว้ได้ เมื่อใช้หมดแล้วก็หมดเลย เวลาเป็นสิ่งเดียวที่เป็นสมบัติที่ยุติธรรมและเสมอภาค ไม่ว่าคนรวยหรือคนจนก็มีเวลาเท่ากันในแต่ละวันคือยี่สิบสี่ชั่วโมง แต่คนจะรวยหรือจนก็ขึ้นอยู่กับการใช้เวลาด้วยนะ วันนี้ขอฝากข้อคิดดีที่จดมาจากหนังสือที่เคยอ่าน เป็นข้อคิดเกี่ยวกับการใช้เวลาค่ะ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าอาจจะมีประโยชน์ต่อท่านผู้อ่านบ้างไม่มากก็น้อย…
· “You will never find time for anything, if you want time, you must make it.” (Charles Bixton)
เวลาไม่เคยมีเพียงพอสำหรับทุกอย่าง หากคุณต้องการเวลา คุณก็ต้องกำหนดมันขึ้นมา
· “If we open a quarrel between the past and the present, we shall find we have lost the future.” (Winston Churchill).
ถ้าเรามัวแต่ขัดแย้งระหว่างอดีตกับปัจจุบัน เราก็จะสูญเสียอนาคต
· “All time management begins with planning.” การใช้เวลาในทุกอย่าง ควรเริ่มจากการวางแผน(Tom Greening)
การบริหารเวลา เริ่มจากการวางแผนก่อน
· “Time=Life, Therefore, waste your time and waste your life, or master your time and master your life.” (Alan Lakein)
เวลาเท่ากับชีวิต ดังนั้นเสียเวลาก็เท่ากับเสียส่วนของชีวิต หรือเป็นนายของเวลาก็เท่ากับเป็นนายของชีวิต
· “The secret of your future is hidden in your daily routine.” (Mike Murdock)
อนาคตซ่อนตัวเงียบๆอยู่กับการใช้เวลาในชีวิตประจำวันของคุณ
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>