การทำธุรกิจ (ตอนที่สอง)
มาติดตามตอนที่สองต่อจากคราวที่แล้วค่ะ…. ขั้นตอนต่อมาคือการหาตลาดหรือกลุ่มลูกค้าสำหรับสินค้าของเรา ขั้นตอนนี้ต้องพิจารณากันอย่างถี่ถ้วนหน่อย เพราะคนเราในโลกนี้ไม่ได้มารุมแย่งกันซื้อสินค้าอย่างเดียวกันไปเสียทุกอย่าง จึงสำคัญตรงที่ว่าเราจะเจาะกลุ่มลูกค้ากลุ่มไหนเป็นหลัก ส่วนกลุ่มอื่นๆที่เราไม่ได้เอามารวมเป็นหลัก สักวันเขาก็อาจจะสนใจเข้ามาซื้อก็ได้ ถ้าเขาสนใจหรือชอบสินค้าและบริการของเรา แต่ประเด็นมันอยู่ที่ว่าเวลาเราโฆษณาสินค้าที่จะขาย เราเดินเข้าไปถูกกลุ่มเป้าหมายหรือเปล่า? เช่นเราอยากจะขายบริการทัวร์ท่องเที่ยว แต่เราไปเน้นโฆษณาในกลุ่มนักบวชหรือผู้สูงวัยที่เขาไม่ชอบเดินทางไปไหนเลย การโฆษณานั้นก็ไม่มีประโยชน์อะไร ต่อให้คุณพูดเชิญชวนจนคอโป่งและต่อมทอนซิลกระเด็นหลุดออกมา คุณก็อาจจะได้ลูกค้าไม่กี่คนและจำนวนตัวเลขต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้ด้วยค่ะ ถ้าอยากจะขายพวกของเก่าแอนทิคย้อนยุคทั้งหลาย ในราคาสมัยใหม่ที่ตั้งไว้สำหรับความเก่าโดยเฉพาะ ก็ต้องเจาะกลุ่มลูกค้าพวกที่มีเงินเหลือกินเหลือใช้ นิยมสะสมของพวกนี้ไว้ประดับบารมีให้ดูขลังและเคร่งขรึม พวกกลุ่มนี้เขาจะไม่คำนึงถึงราคา แต่จะจดจ่อที่ตัวสินค้าว่าเป็นสิ่งที่พวกเขาอยากได้จนน้ำลายหยดหรือเปล่า? ถ้าชอบล่ะก็ ราคาว่ามาเลยไม่เกี่ยงว่าตัวเลขกี่หลัก แต่ในทางกลับกัน ถ้าเราไปโฆษณาขายในกลุ่มคนที่หาเช้ากินค่ำ ต่อให้แอนทิคชิ้นนั้นมีค่ามีราคาแค่ไหน ก็ขายไม่ออก ไม่มีใครสนใจจะซื้อไว้ให้เปลืองพื้นที่บ้านหรอกค่ะ … Continue reading
สู่อ้อมพระหัตถ์
หลายคนคงเคยได้ยินคำกล่าวว่า”คนเรารู้วันเกิดของตัวเอง แต่ไม่มีใครรู้วันตายล่วงหน้า” การเกิดมาและใช้ชีวิตอยู่บนโลกนี้ มีหลายคนสงสัยว่าอะไรคือจุดหมายของชีวิตกันแน่? บางคนบอกว่าเกิดมาเพื่อแสวงหาโชคลาภ เกิดมาเพื่อสร้างความร่ำรวยให้กับตัวเองและครอบครัว เกิดมาเพื่อใช้ทรัพย์สินเงินทองที่หามาได้ หรือเกิดมาเพื่อไขว้คว้าหาอำนาจและไต่เต้าให้ถึงจุดสูงสุดของความมีอำนาจ เพื่อจะได้บงการคนทั้งโลก ชีวิตเป็นเช่นนั้นใช่ไหม? แม้คำตอบมีมากมาย เพื่อตอบคำถามของการมีชีวิตอยู่บนโลกนี้ แต่จะมีใครสักกี่คนที่จะคิดว่าหลังจากชีวิตหมดเวลาบนโลกนี้แล้ว วิญญาณของเราจะไปไหน? มีจุดหมายปลายทาง อยู่แห่งใด? การเดินทางในโลกหลังความตายนั้นมีอะไรที่รอเราอยู่บ้าง? และก่อนหมดลมหายใจสุดท้ายจะมีสักกี่คนที่ได้มีโอกาสจากลากับญาติสนิทมิตรที่รักที่เคยอยู่ร่วมโลกกันมา มีหลายคนที่จากไปด้วยความเจ็บป่วยอย่างโดดเดี่ยวเดียวดายโดยไม่มีโอกาสสั่งลาใครทั้งสิ้น บางคนตายอย่างกระทันหันโดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจุดจบของชีวิตมาถึงรวดเร็วขนาดนี้ เช่นคนที่จากไปด้วยอุบัติเหตุ แต่บางคนกลับเลือกลาจากโลกด้วยการฆ่าตัวตายก็มีมากมายให้เห็น… แต่ทุกคนก็ยังไม่เคยได้คำตอบที่แท้จริงของชีวิตว่าทำไมถึงต้องอยู่?และอยู่เพื่ออะไร? มีหลายคนที่ตลอดเวลาที่พวกเขามีชีวิตอยู่บนโลกนี้ ไม่เคยมีคำว่าศาสนาหรือความเชื่อใดให้ใจมีที่ยึดเหนี่ยว แต่ก็มีหลายคนเช่นกันที่ก่อนตายได้รับรู้ว่าในโลกนี้มีพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่เป็นผู้กำหนดเวลาชีวิตของแต่ละคน และสุดท้ายแล้วเมื่อร่างดับสลาย จิตวิญญาณที่เหลืออยู่ก็จะกลับคืนสู่อ้อมพระหัตถ์ของพระเจ้าอีกครั้ง … Continue reading
ไดอารี่ที่รัก
หลังจากหมกตัวอยู่กับกองหนังสือทำรายงานอย่างชนิดที่เรียกว่าลืมเวลา ลืมทุกอย่าง และเลยเถิดจนกระทั่งลืมแม้กระทั่งชื่ออาจารย์ที่จะต้องเอารายงานไปส่งอีกด้วย (อะแอ้ม… เจ้าหน้าที่การเงินที่รัก… ตัวเลขบนเช็คที่ต้องจ่ายให้ผู้เขียนนั้น ยังไม่ลืมนะ เพราะฉะนั้นอย่าฉวยโอกาสเขียนจำนวนให้ผิดและน้อยลงเหมือนคราวก่อนล่ะ) เพิ่งได้โอกาสทำความสะอาดที่นอนให้เจ้าหมาแมวที่บ้าน …เจ้าหญิงครางหงิงๆหงังๆ เพราะถูกดึงตัวอ้วนๆกลมๆออกมาจากที่นอนอุ่นๆที่กำลังหลับสบายๆ ส่วนเจ้าส้มตำไม่พูดไม่ร้องไม่อะไรทั้งนั้น แต่นั่งฉี่ราดให้เห็นๆเลย แถมทำปากแบบยิ้มหวานๆอีกด้วย เลยได้ออกกำลังกันอุตลุต เพราะเจ้าส้มตำไม่ยอมออกจากที่นอนที่เปียกโชก…มันอะไรกันนักหนาล่ะเนี่ย? แต่ละตัวปรับเปลี่ยนนิสัยเป็นหมาในเมืองไปหมดแล้ว โดนความหนาวนิดๆหน่อยๆก็สะดุ้ง ฮึ่ม..เดี๋ยวส่งไปโรงงานลูกชิ้นที่เวียตนามซะเลยเป็นไง? คงได้ลูกชิ้นตัวละหลายโลเชียว เมื่อวานมีคนที่ไม่เคยรู้จักโทรศัพท์มาสามครั้ง ครั้งแรกพอรับสาย คุณท่านก็รัวลิ้นเหมือนข้าวตอกแตก ยังไม่ทันรู้เหนือรู้ใต้เลยว่าโทรมาทำไม? และเพื่ออะไร? จับใจความอย่างเดียวเรื่องทำประกันเกี่ยวกับรถ เอ๊ะ!รู้ได้ไง(วะ)ว่าผู้เขียนมีรถยี่ห้ออะไร? ดูเหมือนคุณเซลแมนท่านนั้นกำลัง”แตกฟอง” กับการพูดๆๆๆ … Continue reading